1. หวียาก พันกันง่าย ขาดความเงางาม ขาดง่าย และแตกปลายอีกต่างหาก
เราเรียกผมแบบนี้ว่า ผมแห้ง ผมแห้งเกิดจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันได้น้อยกว่าปกติ ทำให้ผมขาดน้ำมัน
หล่อลื่นตามธรรมชาติ
วีธีดูแล หลีกเลี่ยงการใช้แชมพูมากเกินไป เพราะสารเคมีในแชมพูเป็นตัวขจัดความมัน และทำให้
ต่อมไขมันบริเวณหนังศีรษะที่ผลิตน้ำมันได้น้อยอยู่แล้ว ทำงานยากขึ้น
2. จัดทรงง่าย เงางาม ไม่มันหรือแห้งเกินไป เส้นผมแข็งแรง และดูสุขภาพดี
เราเรียกผมแบบนี้ว่า ผมธรรมดา ผมธรรมดาเป็นผมที่ทุกคนปรารถนา ไม่มันเยิ้มหรือแห้งกรอบ การ
ดูแลจึงง่ายมาก
วิธีดูแล สระผมตามปกติ หมั่นแปรงผมอยู่เสมอ เพื่อนวดหนังศีรษะ สร้างความเงางามและให้สภาพ
ผมแข็งแรงและสุขภาพดี
3. ผมเป็นมันเยิ้ม ลีบแบน จัดทรงยาก และมักจะมีฝุ่นละอองปลิวมาติดอยู่เสมอ
เราเรียกผมแบบนี้ว่า ผมมัน ผมมันเกิดจากต่อมไขมันบนหนังศีรษะผลิตน้ำมันมากเกินไป ทำให้ฝุ่น
ละอองปลิวมาติดง่ายเป็นเหตุให้เกิดอาการคันศีรษะ เสียบุคลิก
วิธีดูแล สระผมหลายๆ ครั้ง โดยเน้นบริเวณหนังศีรษะเป็นพิเศษ คอนดิชันเนอร์ไม่จำเป็นสำหรับคุณ
เลย แต่ถ้าจะใช้ให้นวดบริเวณปลายผมเท่านั้น ควรลดอาหารประเภทไขมันอิ่มตัว และลดความ
เครียด เพื่อให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนได้ในระดับปกติ
4. รากผมมัน แต่ปลายผมกลับแตกปลาย
เราเรียกผมแบบนี้ว่า ผมผสม มักเกิดกับคนที่ชอบลองแชมพูหลากชนิด ทำให้เส้นผมและหนังศีรษะปรับ
สภาพไม่ทัน
วิธีดูแล เปลี่ยนมาใช้แชมพูอ่อนสักระยะหนึ่ง หลีกเลี่ยงแสงแดด เมื่อสภาพผมดีขึ้นจึงกลับมาใช้แชมพู
ปกติได้
5. ผมแห้งกรอบ แตกปลาย ขาดง่าย ไร้น้ำหนัก ขาดความเงางาม ไม่อยู่ทรง
เราเรียกผมแบบนี้ว่า ผมเสีย มีสาเหตุจากการดัด กัดสี และทำสีผมบ่อยๆ เป่าผมด้วยความร้อนสูง
ผจญแสงแดด และลมมากเกินไป ว่ายน้ำในสระที่มีระดับความเข้มข้นของคลอรีนสูง
วิธีดูแล ใช้แชมพูสำหรับผมเสีย หมักผม 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์เป็นประจำ ปล่อยให้ผมแห้งตาม
ธรรมชาติ ปกป้องผมจากแสงแดดและมลภาวะ
การแปรงผมนั้นสำคัญฉะไหน
การแปรงผมด้วยขนแปรงคุณภาพดีจะช่วยให้น้ำมันหล่อเลี้ยงเส้นผมกระจายทั่วศีรษะ ทำให้เส้นผมนุ่ม
สวยเป็นเงางาม
ผมตรง ควรใช้แปรงที่นุ่มนวลต่อเส้นผมหรือแปรงที่มีแผ่นยางรอง และปลายแปรงมีปุ่ม
ผมหยิก ควรใช้แปรงขนหมูป่าเคลือบไนลอน เพราะสามารถแปรงผมได้ถึงด้านในสุด และช่วยให้
น้ำมันกระจายตัวทั่ว